ในปัจจุบัน การหาแผนที่ไปไหนมาไหนไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป เพราะคุณสามารถแชร์ตำแหน่งที่ตั้งบน Google Maps ได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชันพิเศษจาก Google ที่เราเชื่อว่าทุกคนจะต้องใช้งานอย่างแน่นอน
หนึ่งในแอปพลิเคชันนำทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด Google Maps สามารถช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบการนำทางผ่านสัญญาณ GPS สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต พร้อมคำนวณเส้นทางที่ใช้เวลาการเดินทางน้อยที่สุดและตรวจสอบสภาพการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนได้อีกด้วย
นอกจากการนำทางแล้ว Google Maps ยังสามารถบอกตำแหน่งของคุณให้คนอื่นรับรู้ได้อีกด้วย วันนี้ ผมจะมาแนะนำวิธีการแชร์โลเคชันด้วย Google Maps ผ่านทางโทรศัพท์ ถ้าอยากรู้ว่าทำอย่างไร ไปอ่านกันเลย!
วิธีการแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ด้วย Google Maps
1. เข้าสู่เมนูการแชร์ตำแหน่ง
- กดที่รูปโปรไฟล์ทรงกลมตรงมุมขวาบนของแอป Google Maps
- ในเมนูนี้จะมีหลายตัวเลือก เช่น เปิดโหมดไม่ระบุตัวตน, โปรไฟล์ของคุณ, ไทม์ไลน์ของคุณ, การแชร์ตำแหน่ง, แผนที่ออฟไลน์, เพิ่มธุรกิจของคุณ, ข้อมูลของคุณใน Maps, การตั้งค่า, ความช่วยเหลือและความคิดเห็น
2. เริ่มการแชร์ตำแหน่ง
- เลือก “การแชร์ตำแหน่ง” แล้วกด “แชร์ตำแหน่ง”
- เมื่อคุณแชร์ตำแหน่ง คนที่คุณแชร์ด้วยจะสามารถเห็นตำแหน่งของคุณแบบเรียลไทม์ผ่านแอปและบริการของ Google แม้ว่าคุณจะปิดแอปอยู่ก็ตาม
3. เลือกเวลาที่จะแชร์
- คุณสามารถตั้งเวลาการแชร์ตำแหน่งได้ตั้งแต่ 15 นาที, 30 นาที, 45 นาที, 1-12 ชั่วโมง, 1 วัน หรือเลือกแบบ “จนกว่าคุณจะปิดฟีเจอร์นี้”
4. ส่งลิงก์ให้กับผู้รับ
- ส่งลิงก์ผ่านเบอร์มือถือ, แชท Messenger, Line หรือวิธีอื่น ๆ
- คุณสามารถใช้วิธีการกด “คัดลอกไปยังคลิปบอร์ด” เพื่อนำลิงก์ไปวางในแอปที่ต้องการได้
5. การรับลิงก์
- ผู้รับจะได้รับข้อความเชิญชวนให้ดูตำแหน่งของคุณแบบเรียลไทม์โดยการกดลิงก์ที่แนบมา
6. เสร็จสิ้น
- ข้อมูลที่ถูกแชร์ประกอบด้วย:
- ชื่อและรูปภาพของคุณที่บันทึกไว้กับอีเมล
- ตำแหน่งแบบเรียลไทม์
- สถานที่ที่เพิ่งไป เช่น ปั๊มน้ำมัน โรงพยาบาล
- วิธีการเดินทาง เช่น รถยนต์ เดิน รถมอเตอร์ไซค์
- ข้อมูลของอุปกรณ์ เช่น ระดับแบตเตอรี่
วิธีปิดการแชร์ตำแหน่งใน Google Maps
1. เข้าสู่เมนูการแชร์ตำแหน่ง
- กดที่รูปโปรไฟล์ทรงกลมตรงมุมขวาบนของแอป Google Maps
- เลือก “การแชร์ตำแหน่ง”
2. หยุดการแชร์ตำแหน่ง
- กด “กำลังแชร์ผ่านลิงก์”
- เลือก “หยุด”
ในหน้านี้จะบอกว่าคนอื่นจะเห็นตำแหน่งของคุณได้อีกกี่นาที และยังมีตัวเลือกให้คัดลอกลิงก์หากคุณต้องการแชร์กับคนอื่น ๆ อีก
3. เสร็จสิ้น
- เมื่อคุณกดหยุดการแชร์แล้ว ตำแหน่งของคุณจะไม่ถูกแชร์แบบเรียลไทม์อีกต่อไป
นี่คือขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับการปิดการแชร์ตำแหน่งใน Google Maps เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคุณ
วิธีการแชร์ตำแหน่งด้วยตัวเลขพิกัดใน Google Maps
1. ระบุตำแหน่งของคุณ
- กดค้างที่วงกลมสีเทาที่บ่งบอกถึงตำแหน่งของคุณบนแผนที่
- รอประมาณ 3 วินาที ตัวเลขพิกัดจะปรากฏขึ้นในช่องค้นหา
2. คัดลอกตัวเลขพิกัด
- คัดลอกตัวเลขพิกัดที่ปรากฏในช่องค้นหา
3. ส่งตัวเลขพิกัดให้ผู้รับ
- ส่งตัวเลขพิกัดนี้ให้กับคนที่คุณต้องการผ่านแชท, อีเมล หรือวิธีการอื่น ๆ
4. ค้นหาตำแหน่งจากตัวเลขพิกัด
- ผู้รับนำตัวเลขพิกัดนั้นไปวางในช่องค้นหาของแอป Google Maps เพื่อดูตำแหน่งที่คุณส่งมา
5. เสร็จสิ้น
ข้อแตกต่างระหว่างการแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์และตัวเลขพิกัด
- แบบเรียลไทม์: จะแชร์ตำแหน่งของคุณตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ระบบจะอัปเดตตำแหน่งของคุณอย่างต่อเนื่อง
- แบบตัวเลขพิกัด: จะแชร์ตำแหน่งที่คุณระบุไว้เท่านั้น โดยตำแหน่งนี้จะไม่อัปเดตตามการเคลื่อนไหวของคุณ
ก็จบไปแล้วนะครับกับวิธีการแชร์โลเคชันด้วย Google Maps ที่มีทั้งแบบเรียลไทม์และแบบตัวเลขพิกัด หวังว่าสิ่งที่ผมได้แนะนำไปจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกคนไม่มากก็น้อย